BOYS’s Pathway to creating Happiness and World Peace 1

     เพื่อเป็นสถานที่ของนักเรียนทุกคนได้ปฏิบัติกิจทางพุทธศาสนา ตามคำสอนของธรรมะในพระพุทธศาสนา ใช้เป็นที่สวดมนต์ ร้องเพลงสรรเสริญพระพุทธเจ้า โดยมีดนตรี เพลงประกอบให้สนุกสนานในการประกอบกิจกรรมให้เด็กรุ่นใหม่ และมอบสิ่งที่ปฏิบัตได้ให้เห็นเป็นจริง ให้เด็กๆมีความสนุก มีความรักชอบและสนใจที่จะมาปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาในโรงเรียน และเด็กๆจะนำไปเล่าและชักชวนพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง ให้มาเข้าร่วมกิจกรรมในโรงเรียน และส่วนกิจกรรมที่บ้าน การสวดมนต์ไหว้พระ เช้า เย็น ปฏิบัติให้เห็นเป็นจริงทั้งที่บ้านและโรงเรียน เพื่อ สร้างให้ บ้าน วัด โรงเรียน มีความผูกพันธุ์ เชื่อมโยงกันและกันตลอดไป เมื่อสมัยก่อน พระมหากษัตริย์ของไทยหลายพระองค์เรียนในโรงเรียนวัด ได้รับความรู้มาจากวัด มาปกครองบ้านเมืองทำให้เจริญรุ่งเรืองมาจนถึงวันนี้ แต่ต่อมารัฐบาลและประชาชนมากขึ้นก็เอาโรงเรียนออกจากวัด วัดจึงหมดหนทางและโอกาส ไม่มีโอกาส ที่จะอบรม บ่มนิสัย ขัดเกลา ให้เด็กๆเป็นคนดีได้อีก นั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ เกิดการหลอกลวง ต้มตุ๋น คดโกง กินบ้าน กินเมือง อย่างมโหฬาร ไปทั่วประเทศ อย่างทุกวันนี้

     ในปีการศึกษา 2563 โรงเรียนยุวพุทธศึกษาอุปถัมภ์ จะเปิดสอนระดับก่อนปฐมวัย ตั้งแต่อายุ ๒ ขวบ จนถึงระดับประถมปีที่ 4 และไล่ชั้นขึ้นไปจนถึงระดับมัธยมปลาย (ม.๖) และ ป.วช.รวมเวลาที่เด็กจะถูกโรงเรียนพร่ำสอน และนำพาปฏิบัติให้เห็นจริง ให้อยู่ในโอวาท สิ่งแวดล้อมกับเพื่อนๆที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเพื่อนๆที่มีคุณภาพ คุณธรรม กันทุกคน กินอยู่ร่วมกันในโรงเรียน นานรวมเป็นเวลา ๑๕-๑๖ ปี เป็นอย่างน้อยซึ่งเด็กๆจะเกิดการซึมซับกับคำสอน ที่ได้ปฏิบัติจริง และเป็นวิทยาศาสตร์ทำให้เกิดเป็นทักษะ ความชำนาญ ความเคยชินในชีวิตประจำวัน เมื่อเรียนจบชั้นสูงสุดของโรงเรียนฯ ออกไปเผชิญสู่โลกภายนอกโรงเรียน เด็กเหล่านี้ก็ยังจะปฏิบัติตัวตามจิตสำนึกที่ตนเองเคยชินปฏิบัติมาเช่นเดิม

     เมื่อโรงเรียนมีความพร้อม มีอาคารเรียน มีหอพัก มีทุนทรัพยที่จะมาบริหารแล้ว โรงเรียนก็พร้อมที่จะไปติดต่อขอรับเด็กกำพร้าจากสถานสงเคราะห์ของรัฐบาลและเอกชน ให้ได้จำนวนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อนำมาปฏิบัติให้เกิดความก้าวหน้าแก่เด็กๆ โดยถ้วนหน้ากันต่อไป

     จากหนึ่งปีการศึกษาที่ผ่านมา โรงเรียนได้ใช้ระบบการสอนแบบบูรณาการในทุกรายวิชา โดยจัดให้สวดมนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิ ปฏิบัติตามศึล ๕ เพียงเวลา ๙ เดือน ผลที่ได้ก็คือ เด็กๆหลายคนที่ซุกซน ชอบแกล้งเพื่อน ชกต่อยตีเพื่อน ชอบความรุนแรง พูดจา หยาบคาย ไม่สุภาพ ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ไปเป็นคนละคน กลายเป็นเด็กดี มีความสำนึก รับผิดชอบมากขึ้น ไม่ชกต่อย ไม่หยาบคาย อีกต่อไป เป็นที่ปลื้มอก ปลื้มใจ แก่ผู้ปกครองยิ่งนัก ผลสัมฤทธิ์ดังนี้จึงเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นในชีวิตจริง ทำให้ครอบครัวเป็นสุข และอยู่กันอย่างมีความสุขและสันติตลอดไป

     ณ วันนี้ แนวทางของโรงเรียนยุวพุทธศึกษาอุปถัมภ์ ที่ได้ดำเนินมา 1 ปีการศึกษานั้นมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมแล้วว่า การสร้างคนที่เป็นเด็กตัวเล็กๆ ให้เป็นคนดีนั้นทำได้ไม่ยาก อย่างที่คิดแน่นอน เพียงแต่ต้องใช้เวลาถึง 15-16 ปีเท่านั้น เด็กๆที่เรียนจบชั้นสูงสุด จากโรงเรียนแห่งนี้ ก็จะเป็นคนดีอย่างยั่งยืนอยู่ในสังคมไทยอย่างภาคภูมิ